กรมอุตุฯ เตือน 6-10 มีนาคม
กรมอุตุฯ ประกาศเมื่อวันที่ 04 มีนาคม 2564 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนบางแห่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อากาศ 7 วันข้างหน้า คาดหมาย ในช่วงวันที่ 4 - 5 มี.ค. 64
บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง
ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น
ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น
โดยบริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 6 - 10 มี.ค. 64
ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น
กับมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง
ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อน
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 4 - 5 มี.ค. 64
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวัง ฝนฟ้าคะนอง
โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่
ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน
ที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง


No comments: